31 ตุลาคม 2559

: ลุ่มน้ำและชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ

ลุ่มน้ำและชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ

อรสา  นิลประกอบกุล
 นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี)

ประเทศไทยแบ่งลุ่มน้ำ (Watershed) ออกเป็น 9 กลุ่ม ลุ่มน้ำ 25 ลุ่มน้ำหลัก และ 254 ลุ่มน้ำสาขา โดยใช้สันปันน้ำทั้งที่เป็นธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็นเส้นแบ่ง  โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การบริหารจัดการน้ำ ซึ่งพื้นที่ในระบบเขตการปกครอง (ตำบล อำเภอ จังหวัด) ไม่สามารถแบ่งน้ำได้ ส่วนชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ แบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 พื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ โดยกำหนดจากปัจจัยด้านกายภาพซึ่งมีผลต่อกระบวนการทางอุทกวิทยา และมีลักษณะที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก 6 ประการ คือ สภาพภูมิประเทศ ระดับความลาดชัน  ความสูงจากระดับน้ำทะเล ลักษณะทางธรณีวิทยา ลักษณะทางปฐพีวิทยา และสภาพป่าไม้ที่เหลืออยู่ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ (การใช้ประโยชน์ที่ดิน) และควบคุมการไหลของน้ำภายใน ลุ่มน้ำให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและสอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม                             
            ในพื้นที่ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา และ สระแก้ว  เขตรับผิดชอบของสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) อยู่ในพื้นที่ 3 กลุ่มลุ่มน้ำ 4 ลุ่มน้ำหลักและ 14 ลุ่มน้ำสาขา รายละเอียดดังตาราง

รหัสลุ่มน้ำหลัก
ชื่อลุ่มน้ำหลัก
รหัสลุ่มน้ำสาขา
ชื่อลุ่มน้ำสาขา
พื้นที่
(ตร.กม.)
ร้อยละ
พื้นที่เกาะ
(ตร.กม.)
ร้อยละ
15
แม่น้ำปราจีนบุรี
1502
1503
คลองพระสทึง
แม่น้ำพระปรง
2 ,639.99
2 ,699.94
27.29
27.91
-
-
-
-
16
แม่น้ำบางปะกง
1603
1604
1605
คลองท่าลาด
คลองหลวง
ที่ราบแม่น้ำบางปะกง
2 ,930.22
825.20
5 ,171.90
27.38
7.71
48.33
-
-
-
-
-
-
17
โตนเลสาป
1701

1702
1703
โตนเลสาปตอนบน (ลุ่มน้ำสาขา)
ห้วยพรมโหด
โตนเลสาปตอนล่าง
1 ,613.74

932.93
1 ,539.25
39.50

22.83
37.67
-

-
-
-

-
-
18
ชายฝั่งทะเลตะวันออก
1801

1802
1803
1804
1805
1806
ชายฝั่งทะเลตะวันออก (ลุ่มน้ำสาขา)
แม่น้ำเมืองตราด
แม่น้ำจันทบุรี
คลองโตนด
แม่น้ำประแสร์
คลองใหญ่
4 ,416.62

1 ,558.69
1 ,593.59
1 ,656.42
2 ,137.75
1 ,729.98
33.73

11.90
12.17
12.65
16.33
13.21
404.46

-
-
-
-
-
100.00

-
-
-
-
-


ในส่วนของชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ ได้ถูกกำหนดขึ้นเป็น 5 ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ  ซึ่งในลุ่มน้ำชั้นที่ 1 จะแบ่งออกเป็น 2 ระดับชั้นย่อย โดยมีมาตรการการใช้ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นต่างๆ ดังนี้
พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ
            - ห้ามเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้เป็นรูปแบบอื่นอย่างเด็ดชาด
            - ระงับการอนุญาตทำไม้โดยเด็ดขาด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบำรุงรักษาป่าธรรมชาติที่มีอยู่ ส่วนบริเวณใดเป็นที่รกร้างว่างเปล่า หรือป่าเสื่อมโทรม ให้ดำเนินการปลูกป่าทดแทน
พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 บี
            - พื้นที่ที่มีการเปลี่ยนสภาพ หรือพัฒนาเพื่อกิจกรรมต่าง ๆ นั้น ต้องดำเนินการวางแผนการใช้ที่ดินให้สอดคล้องกับสภาพธรรมชาติ
            - พื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการพัฒนาในรูปแบบใด ๆ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปลูกป่า                  อย่างรีบด่วน
            - ในกรณีการสร้างถนนหรือการทำเหมืองแร่ หน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการจะต้องควบคุม                                        การชะล้างพังทลายของดินที่เกิดขึ้นในบริเวณโครงการ
          - ส่วนราชการที่มีความจำเป็นต้องใช้ที่ดินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 2
  - การอนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมป่าไม้และเหมืองแร่ต่อไปได้ จะต้องมีการควบคุมการใช้ที่ดิน                 อย่างเข้มงวด
            - หลีกเลี่ยงการใช้ที่ดินเพื่อกิจกรรมทางด้านเกษตรกรรม
            - ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปลูกป่าในบริเวณที่ถูกทำลาย


พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 3
            - การใช้พื้นที่ในกิจการต่างๆ จะต้องควบคุมให้เป็นไปตามหลักการอนุรักษ์ดินและน้ำ
พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 4
            - การใช้พื้นที่เพื่อกิจการใด ๆ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการโดยเคร่งครัด
            - การใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม จะต้องวางแผนให้เป็นไปตามมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ
พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 5
            - อนุญาตให้ใช้เพื่อดำเนินกิจการใด ๆ ได้ตามปกติ
            - ในกรณีใช้ที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรม ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการเกษตรสูง       
            โดยสรุปคือ ระบบลุ่มน้ำ เน้นการจัดการน้ำ ส่วนชั้นคุณภาพลุ่มน้ำ เน้นเขตการใช้ประโยชน์        ของทรัพยากรที่เหมาะสมภายในพื้นที่ลุ่มน้ำ เมื่อนำระบบลุ่มน้ำ และชั้นคุณภาพลุ่มน้ำมาวิเคราะห์เชิงพื้นที่ร่วมกันจึงเป็นวิธีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบขอบเขตการปกครอง เพราะระบบลุ่มน้ำให้มิติความชัดเจนในเรื่อง ปริมาณ คุณภาพ และช่วงเวลาการไหลที่มีความสัมพันธ์กับการใช้ประโยชน์ที่ดิน

   
   ที่มา : แผนที่มาตรฐานการแบ่งลุ่มน้ำหลักและลุ่มน้ำสาขาของประเทศไทย                                                      
         สำนักวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
      : http://www.haii.or.th/wiki/index.php/สภาพภูมิประเทศลุ่มน้ำบางปะกง