การจัดการเครื่องมือวัดในระบบมาตรฐานสากล
ISO/IEC ๑๗๐๒๕
โดย นางสาวยุพิน รัตนะแพร
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การจัดการเครื่องมือวัดในระบบมาตรฐานสากล
ISO/IEC ๑๗๐๒๕ เป็นวิธีการที่สามารถยืนยันได้ว่าเครื่องมือวัดที่ห้องปฏิบัติการใช้งานมีคุณลักษณะเป็นไปตามเกณฑ์ที่ต้องการหรือไม่
โดยแบ่งออกเป็น ๖ ส่วนสำคัญดังนี้
๑. หน่วยพื้นฐาน (SI
Units ; International System of Units)
มี ๗ หน่วย
๑.๑ kg :
หน่วยของมวล (กิโลกรัม)
๑.๒ A : หน่วยของปริมาณกระแสไฟฟ้า (แอมแปร์)
๑.๓ s :
หน่วยของระยะเวลา (วินาที)
๑.๔ K : หน่วยของอุณหภูมิ (เคลวิน)
๑.๕ mol : หน่วยของปริมาณสาร (โมล)
๑.๖ cd : หน่วยของความเข้มแห่งการส่องสว่าง (แคนเดอร่า)
๑.๗ m : หน่วยของระยะทาง (เมตร)
ระบบหน่วยวัด ระบบเมตริกได้รับการปรับปรุงเป็นระยะๆ
ที่ได้รับการยอมรับและเข้าใจตรงกันทั่วโลก
๒. มาตรวิทยา (Metrology) คือ วิทยาการที่เกี่ยวกับการวัดที่ถูกต้องแม่นยำ
มีการสอบกลับได้สู่มาตรฐานการวัดสากล ทั้งนี้ครอบคลุมข้อกำหนดตามมาตรฐานสากล ISO/IEC ๑๗๐๒๕ ดังนี้
เรื่องวิธีการวัด (measurement
method),เรื่องความคลาดเคลื่อนของการวัด (Error),เรื่องควา
ไม่แน่นอนในการวัด (Uncertainty),เรื่องเครื่องมือในการวัด (Equipment),เรื่องการสอบย้อนกลับได้สู่มาตรฐานสากล (Tracebility),เรื่องเปรียบเทียบการวัด (Comparability)
๓. คำศัพท์ทางมาตรวิทยา
ที่เครื่องมือวัดจะต้องมี ประกอบด้วย
๓.๑ Accuracy of a measuring : ความถูกต้องของการวัด
๓.๒ span : ช่วงวัด ขนาดความแตกต่าง
ระหว่างขีดจำกัดของพิสัยที่ระบุของเครื่องมือวัด
๓.๓ nominal value : ค่าระบุ
(ลักษณะของอุปกรณ์) ให้ไว้เป็นแนวทางในการใช้อุปกรณ์
๓.๔ specified measuring rang : พิสัยการวัดที่บ่งบอกไว้
๓.๕ resolution of a display : ความละเอียดของอุปกรณ์ที่แสดงผลหรือความแตกต่างที่เล็กที่สุดระหว่างค่าบ่งชี้ที่ถูกแสดงผลที่สามารถถูกทำให้เห็นความแตกต่างได้อย่างมีความหมาย
มี ๒ แบบคือ analog และ digital
๓.๖ Hystersis : ปรากฏการณ์ไม่ซ้ำรอยเดิม
เป็นคุณสมบัติของเครื่องมือวัด ซึ่งผลตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่กำหนดให้ขึ้นอยู่กับลำดับของสิ่งเร้าที่มาก่อน
เช่น ควรวัดในเครื่องชั่ง ๔ – ๕ ตำแหน่ง
๓.๗ Stability : เสถียรภาพ
คุณสมบัติของเครื่องมือวัดโดยที่สมบัติเชิงมาตรวิทยาของเครื่องมือยังคงตัวในเวลายาวนาน
๓.๘ drift : การลอยเลื่อน
เป็นการแปรผันอย่างช้าๆ ตามเวลาของลักษณะทางมาตรวิทยาของเครื่องมือวัด
โดยทำการบันทึกค่าอย่างน้อย ๕ ครั้งขึ้นไป
๓.๙ Error : ความคลาดเคลื่อน
เป็นผลของการวัดลบด้วยค่าจริงของปริมาณที่ถูกวัด หรือ
Error =
Measured Value – True Value
๔. การสอบเทียบ (Calibration)
หมายถึง
ชุดของการดำเนินการทางมาตรวิทยาเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างค่าชี้บอกโดยเครื่องวัด
หรือ ระบบการวัด หรือค่าที่แสดงโดยเครื่องวัดที่เป็นวัสดุ
กับค่าสมนัยที่รู้ของปริมาณที่วัดภายใต้ภาวะที่บ่งไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะทำการทดสอบ ๔ –
๕ ซ้ำ ทั้งนี้เมื่อห้องปฏิบัติการทดสอบได้รับใบรายงานผลการสอบเทียบของเครื่องมือวัดมาแล้ว
ต้องนำมาทำการทวนสอบใบรายงานผลการสอบเทียบเพื่อให้ทราบค่า โดยมีวิธีคิด ดังนี้
๔.๑ ทำการคำนวณหาค่า Error + U และนำไปเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้
๔.๒ ทำการคำนวณหาค่า |
Error | + U และนำไปเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้
๔.๓ กรณีใบรายงานผลการสอบเทียบให้ค่าแก้ (Correction) มา ต้องทำการคำนวณ ดังนี้
๔.๓.๑ หาค่า
Error โดยใส่เครื่องหมายตรงกันข้ามกับ ค่า Correction
๔.๓.๒ ใส่ | Er| ของค่า Error
๔.๓.๓
นำไปบวกกับค่า Uncertainty
๔.๓.๔
นำค่าที่ได้ไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ที่ตั้งไว้
๕. การนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในมาตรฐานสากล
ISO/IEC ๑๗๐๒๕
ห้องปฏิบัติการต้องจัดให้มีเครื่องมือในการวัดและการทดสอบโดยต้องมีเครื่องมือพร้อม
เพื่อให้ผลการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง
และเครื่องมือวัดนอกการควบคุมต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
ซึ่งต้องจัดให้มีการสอบเทียบที่เพียงพอ โดยการทำเป็นโปรแกรมสอบเทียบเครื่องมือประจำปี
การทำการทวนสอบซอฟแวร์ บุคลากรที่ใช้เครื่องมือต้องมีการอบรมรับรองความสามารถของบุคลากร
แสดงผู้มีสิทธิ์ใช้เครื่องมือและมีการจัดทำ log book (แบบฟอร์มแสดงการทำงาน)
การจัดทำประวัติเครื่องมือ ประวัติบำรุงรักษาของเครื่องมือ
ประวัติการซ่อมบำรุงของเครื่องมือแต่ละเครื่อง
และเครื่องมือไม่ควรมีการใช้งานเกินกำลัง พร้อมกับติดป้าย แสดงวันเดือนปีที่ทำการสอบเทียบและ
due date ต้องมีการควบคุมการนำเครื่องมือนำออกนอกพื้นที่
การตรวจสอบเครื่องมือระหว่างการใช้งาน (Intermediate Check) และเครื่องมือต้องสามารถสอบกลับได้ไปยังหน่วยวัด
SI Unit
๖. การนำความรู้ที่ได้เพื่อการกำหนดรายการสอบเทียบเครื่องมือวัด
๖.๑ ให้ทำการตรวจสอบผลการสอบเทียบ
และพิจารณาจะยืดหรือหด ระยะเวลาครบอายุการสอบเทียบในครั้งต่อไป
๖.๒ การใช้ Control Chart มาทำนายแนวโน้ม
๖.๓ กำหนดเวลาตามปฏิทิน
๖.๔ การคิดข้อมูลปริมาณการใช้งานเป็นชั่วโมงของเครื่องมือ
---------------------------------------------
เอกสารอ้างอิง
การจัดการเครื่องมือในระบบ ISO/IEC ๑๗๐๒๕ , สำนักพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ
กรมวิทยาศาสตร์บริการ